ฝรั่งเศสทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด ตอน การรอคอยที่ยาวนานกับประสบการณ์ติดขอบสนามสุดสั้น

ในโลกเราทุกวันนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก Tour de France (ตูร์ เดอ ฟรองซ์) การแข่งขันจักรยานทางไกลอันโด่งดังระดับโลกของฝรั่งเศส ดังนั้นทันทีที่ได้ข่าวจากเพื่อนๆ ที่อาศัยอยู่ในเมือง Vienne ที่ค่อนมาทางตอนใต้ของ Lyon  ว่าคณะผู้แข่งขันจะผ่านมาใกล้ๆ เมืองนี้ มีหรือที่เราจะยอมพลาดโอกาสอันหายากนี้ไป...

อย่างที่เคยเล่าไว้แล้วคร่าวๆ ในเพจ Facebook ว่าการแข่งขันปีนี้ เป็นครั้งที่ 109 บทความนี้จึงถือเป็น ‘ภาคขยาย’ เล่ารายละเอียดสำหรับคนที่ชอบอ่านและ/หรือสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษแล้วกันนะคะ

Tour de France มีชื่อเล่นอีกชื่อว่า ‘La Grande Boucle’ (ลา กรองด์ บูค(เลอะ)) จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1903 คอนเซปต์หลักๆ ของการแข่งขันก็คือการปั่นจักรยานไปตามทางราบบ้าง ขึ้น-ลงเนินบ้าง รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 3,500 กิโลเมตร โดยทำเวลาให้ได้น้อยที่สุด รูปแบบเส้นทางจะเป็นในลักษณะตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกาสลับกันไปในแต่ละปี โดยแบ่งออกเป็น 21 stage ซึ่งหมายถึง 21 วันในการปั่น และผู้ชนะของแต่ละเส้นชัย (วัน) ก็จะทำแต้มสะสมรวมเป็นคะแนนสำหรับตลอดทั้งการแข่งขันนั่นเองค่ะ ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว Tour de France  จะเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมตามจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป ก่อนที่จะไปจบลงที่เส้นชัยสุดขลังจุดเดิมบนถนน Champs-Élysées (ชองส์-เซลิเซส์) ในกรุงปารีส

ที่ได้ชื่อว่า Tour de France เพราะ Tour แปลว่า 'การวนรอบ' นี่จึงหมายถึงการแข่งขันที่มีเส้นทางวนรอบในประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเส้นทางการแข่งขัน Tour de France แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย เพราะเราไม่ได้วนรอบเฉพาะในประเทศฝรั่งเศสอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน แต่มักจะมีประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมเป็นเจ้าภาพสลับกันไป เช่น สเปน อิตาลี เยอรมนี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ส่วนปี 2022 นี้ นอกจากเบลเยียมและสวิสเซอร์แลนด์แล้ว ก็ยังมีเดนมาร์กเป็นเจ้าภาพร่วมอีกประเทศ แถมนักปั่นของเขายังได้ครองแชมป์ประจำปีนี้อีกด้วยล่ะค่ะ 

จริงๆ แล้วในปัจจุบันมีการแข่งขันจักรยานมืออาชีพทางไกลในลักษณะเดียวกันนี้อีกมากมายในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ Giro d'Italia ของอิตาลี Vuelta a España ของสเปน Deutschland Tour ของเยอรมนี Tour of Britain ของสหราชอาณาจักร และอีกมากมาย แต่การแข่งขันที่โด่งดังและยิ่งใหญ่ที่สุดก็ยังคงเป็น Tour de France อยู่เรื่อยมา

นอกจากจะเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกแล้ว Tour de France ยังถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของประเทศฝรั่งเศส เป็นอีกส่วนเสี้ยวของวัฒนธรรมที่สะท้อนผ่านทัศนียภาพอันงดงาม ดังนั้นนอกจากการแข่งขันความเร็วอันดุเดือดผ่านมุมกล้องจากมอเตอร์ไซค์หรือเฮลิคอปเตอร์แล้ว เรายังจะได้เพลิดเพลินกับฉากหลังที่มีแนวเขา ชายหาด ปราสาท หรือสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของฝรั่งเศสอีกด้วย Tour de France จึงไม่ใช่แค่การแข่งขันจักรยานแต่ยังถือเป็นช่องทางสำคัญในการโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วยค่ะ

เฮลิคอปเตอร์ที่ตามมาเก็บภาพจากมุมสูง

อยู่ฝรั่งเศสมาก็หลายปี แต่ต้องสารภาพค่ะว่านี่เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นสักขีพยานในการแข่งขันจักรยานทางไกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเองแบบสดๆ เช่นนี้ ทำเอาเราถึงกับตื่นเต้น เตรียมตัวออกจากบ้านแต่หัววันไปจับจองที่นั่งปิกนิกบนเขากับเพื่อนๆ เพื่อที่จะได้จุดที่นั่งรอได้อย่างสบาย ใต้ร่มไม้ และไม่แออัดจากฝูงชนมากนัก

เมื่อเริ่มเข้าสู่เส้นทางที่นักปั่นจะผ่าน เราก็เริ่มเห็นกลุ่มแฟนๆ มาเตรียมรอเป็นระยะๆ

เหล่านักปั่นที่ปั่นมาดูนักปั่น

ในแต่ละปี Tour de France มีผู้เข้าชมประมาณ 12 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีผู้ร่วมชมมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ และตัวเลข 12 ล้านนี้ยังไม่ได้นับรวมถึงผู้ชมที่นั่งดูการถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอทีวีกว่า 190 ประเทศทั่วโลกนะคะ แต่นับเอาเฉพาะเหล่าผู้ชมและแฟนๆ ที่มาปักหลักรอตามสถานที่จริง ดังนั้นตลอดเส้นทางที่เหล่านักปั่นจะใช้สำหรับการแข่งขันในวันนั้น เราได้เห็นบรรดากองเชียร์มาตั้งวงรอกันตั้งแต่หัววัน โดยมากันเป็นกลุ่มเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง บ้างก็มาจากต่างประเทศ ซึ่งเพื่อนผู้เป็นแฟน Tour de France ตัวยงบอกเราว่า ส่วนใหญ่คนที่มาด้วย camping car มาจากทางไกลเหล่านี้ เขาจะขับรถตามเหล่านักปั่นไปตลอดการแข่งขันเลยค่ะ โดยจะไปตั้งหลักรอล่วงหน้า เมื่อนักปั่นผ่านไปจึงค่อยย้ายฐานทัพตามไปดักหรอใหม่ ซึ่งก็ถือเป็นการเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยในตัว ฟังดูน่าสนุกดีนะคะ

 

ทิวทัศน์บริเวณที่เรามาต้ังวงรอนักปั่น

เมื่อเจอจุดที่ถูกใจ พวกเราก็ปู่เสื่อกางเก้าอี้ปักหลักรอกันตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงครึ่ง กินข้าว กินขนม ก่อนตบท้ายด้วยกาแฟ นอนพักจนหลับไปแล้วหนึ่งงีบ จนเวลาบ่ายสามโมงกว่า กองทัพนักปั่นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาเยือน ขณะที่พวกเราเริ่มจะเบื่อๆ กันแล้ว ก็ได้ยินเสียงดนตรีจากเครื่องขยายเสียงกระหึ่มมาแต่ไกล ผู้ชิมลางถนนกลุ่มแรกไม่ใช่เหล่านักปั่น ตำรวจ หรือนักข่าว แต่เป็นขบวนรถโฆษณาที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้แก่การแข่งขัน แถมบางคันยังมีการตกแต่งที่น่ารักน่ามองเพลินตา ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังชมขบวนแห่ตามสวนสนุกก็ว่าได้ค่ะ 

บรรยากาศกลุ่มแฟนๆ ที่มารอดูการแข่งขันบนเนินเขาอันห่างไกล

น้องน้ำยาซักผ้า 💓

Asterix  ตัวละครดังของวงการการ์ตูนฝรั่งเศส

 

ถือได้ว่าเป็นธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งของ Tour de France ในปัจจุบัน รถเหล่านี้พากันทยอยผ่านมาแจก ‘goodies’ ต่างๆ หรือที่คนไทยเราอาจจะรู้จักในชื่อของ ‘ของพรีเมียม’ เช่น พวงกุญแจ ถุงผ้า หมวก สายรัดข้อมือ ขนม น้ำดื่ม เสื้อยืด ฯลฯ โดยโยนลงมาจากรถที่พวกเขาขับ (ให้นึกภาพการโปรยทานในงานบวชตามได้เลยค่ะ) แต่รถพวกนี้ขับกันเร็วมากค่ะ ประกอบกับเส้นทางที่พวกเรานั่งๆ ยืนๆ อยู่นั้นเป็นทางลาดลงและเป็นทางโค้งด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ ไม่เดินหรือล้ำเส้นเข้าไปในเขตถนนเป็นอันขาด

โยนแจกกันแบบนี้เลยค่ะ

 

Goodies ทั้งหมดที่ตามเก็บได้มา

หลังจากชื่นชมปลื้มปริ่มกับบรรดาของฟรีที่ได้รับแจกมามากมายแล้ว เราก็ได้ยินเสียงแตร และเสียงคนโห่ร้องอันเป็นสัญญาณบอกล่วงหน้าว่าเหล่านักปั่นใกล้จะผ่านมาถึงบริเวณที่เราอยู่กันแล้ว และอีกสิบกว่านาทีต่อมา มอเตอร์ไซค์ของตำรวจสองสามคันก็ได้วิ่งนำทางมาก่อนที่เหล่านักปั่นชุดแรกจะเร่งสปีดจนมาถึงตรงหน้าเราค่ะ เป็นช่วงวินาทีที่น่าตื่นเต้นทว่าแสนสั้น เพราะยังไม่ทันได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป บรรดานักแข่ง Tour de France กลุ่มแรกก็หายวับไปจากถนนแบบไม่เหลือไว้แม้แต่รอยฝุ่นให้เห็นกันเลยล่ะค่ะ

เร็วจริงๆ ค่ะ ถ่ายไม่ทันเลย 😅

หลังจากนักปั่นกลุ่มแรก ก็ยังมีผู้เข้าแข่งขันตามมาเป็นระยะๆ อีกสองสามกลุ่ม จังหวะนี้แหละค่ะเราถึงได้มีโอกาสเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกับเขาบ้าง ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าอยู่ค่ะ 4 ชั่วโมงของการรอคอยเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในช่วง 10 วินาที ทว่าเป็นวินาทีอันมีค่าที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์การแข่งขันระดับโลก ดังนั้นถ้าใครมีโอกาสควรลองร่วมประสบการณ์นี้ดูสักครั้งนะคะ 😉 

ในที่สุดก็ได้ช็อตสวยๆ กับเขาเสียที

บรรดาตำรวจหล่อล่ำที่มาช่วยดูแลเรื่องการปิดถนน

เมื่องานเลี้ยงเลิกรา จึงตามมาด้วยขบวนรถติด

ใครอยากรู้เรื่อง Tour de France แบบละเอียดและอัพเดต สามารถเข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Tour de France เลยค่ะ และใครที่ชอบกิจกรรมหรือเรื่องราวเชิงวัฒนธรรมเช่นนี้ สามารถติดตามอ่านบทความของเราที่จะ (พยายาม) ทยอยเขียนมาให้อ่านเรื่อยๆ ได้ที่บล็อกหรือเพจ facebook ของ Pat the Expat กันเลยนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 🙏