8 ของดีเมือง Annecy มาทั้งทีควรโดน
English Version click here
จาก Lyon (ลียง) นั่งรถไฟต่อมาอีก 2 ชม.มุ่งมาทางตะวันออกเฉียงเหนือนิดๆ (ถ้าโชคดีอาจเจอรถไฟสายตรง) เราก็จะมาถึง Venice of the Alps หรือเมืองเวนิซแห่งเทือกเขาแอลป์ (ฝรั่งเศสออกเสียง ‘อาลป์’) เมืองเล็กๆ ที่ชื่อเสียงนั้นไม่ได้เล็กตาม นามว่า Annecy (อานซี)
ว่าแต่ที่ Annecy มีอะไรให้เที่ยวบ้างน้อ...
“แค่ทะเลสาบอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว” หลายคนบอกเราว่าอย่างนั้น แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะมา Annecy กี่รอบ เราก็ไม่เคยพลาดที่จะแวะมาชมความงามของทะเลสาบ Annecy ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของฝรั่งเศสแห่งนี้ไม่ว่าในฤดูกาลใด ทะเลสาบที่แม้แต่ศิลปินระดับโลกอย่าง Paul Cézanne (ปอล เซซานน์) ยังเคยจารึกความงามของมันลงบนผืนผ้าใบ แต่ถึงอย่างนั้น ส่วนตัวเราเองก็อยากแนะนำกิจกรรมและจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ไว้ให้คนที่นานๆ มาที หรือคนที่ไม่คิดจะกลับมาย้ำที่นี่อีก ได้เที่ยวได้ส่องแบบทั่วทุกซอกมุมของเมืองกันแบบไม่เสียเที่ยวและไม่เสียดายเวลา เลยถือโอกาสนี้นับนิ้วจัดลิสต์ ‘ของดีแห่งเมือง Annecy’ ขึ้นจากประสบการณ์ตรงของตัวเองที่อยากแนะนำให้ใครที่มาแล้วได้สัมผัสค่ะ
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟ Annecy เราก็จะเห็นวิวภูเขาสวยๆ รอต้อนรับทันที |
1. ทะเลสาบ Annecy
แม้จะมาเยือนเมืองนี้หลายครั้งแล้ว แต่ต้องยอมรับเลยค่ะว่าเวลาเห็นภาพทะเลสาบใสๆ ใจกลางเมืองแห่งนี้ทีไรก็อดทึ่งและห้ามตัวเองไม่ให้กดชัตเตอร์รัวๆๆ ไม่ได้ (เขาว่าเป็นทะเลสาบที่สะอาดที่สุดในยุโรปเลยนะเออ) นอกจากการเดินเล่นสูดโอโซนรอบทะเลสาบแล้ว เรายังสามารถมานั่งปิกนิก หรืออ่านหนังสือตากอากาศชิลๆ พร้อมชมวิวสวยๆ รอบทะเลสาบได้อีกด้วย
หรือถ้าใครอยากนั่งเรือล่องทะเลสาบ ก็มีเรือมากมายให้เลือกใช้บริการ ทั้งเรือถีบ เรือยนต์ (แบบทั้งต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่และไม่ต้องใช้) และเรือนำเที่ยว นั่งชมความงามสองฟากฝั่งตลอดระยะทางกว่า 14 กม. และถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวเมือง Saint-Jorioz (แซงต์-ฌอริโอซ์) เราก็อาจจะได้เห็นกลุ่มบ้านเสายุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ UNESCO ได้บันทึกไว้เป็นมรดกโลกด้วยค่ะ
ทะเลสาบ Anney ในหน้าร้อน |
ทัศนียภาพกลางทะเลสาบ |
เส้นทางรอบทะเลสาบสำหรับคนเดินเท้าและจักรยาน |
บรรยากาศริมทะเลสาบยามเช้าในฤดูใบไม้ร่วง |
จากทะเลสาบมุ่งหน้าไปยังคลอง Vassé (วาสเซ) มี Pont des Amours (ปงต์ เดส์ ซามูร์) หรือสะพานคู่รัก ซึ่งจากชื่อคงพอเดากันได้ว่าสะพานแห่งนี้เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของคู่รักที่หลีกลี้หนีฝูงชนมาหาความสงบ ตามตำนานเมืองเขาว่ากันว่า คู่รักคู่ไหนไปจุ๊บกันตรงกลางสะพาน ความรักของพวกเขาก็จะกลายเป็นรักที่นิรันดร์ยั่งยืนไปจนวันตาย และด้วยเหตุนี้...หึๆ ...ในช่วงหน้าร้อนอันเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว สะพานแห่งรักแห่งนี้ก็ไม่สงบอีกต่อไป เพราะมันมักจะล้นหลามไปด้วยคู่รัก คู่หวานที่พากันมาแลกจุมพิตพร้อมกับบันทึกช่วงเวลาสุดโรแมนติกไว้แบบไร้ซึ่งความปราณีแก่คนไร้คู่เลยล่ะค่ะ 😭 เพราะฉะนั้นถ้าใครคิดจะมาเที่ยวแบบลุยเดี่ยวแล้วไม่อยากเห็นภาพทรมานหัวใจ ภาพสวีทหวานชื่นของคู่อื่นเขา ก็ข้ามรายการนี้ไปได้เลยค่ะ (นี่เตือนแล้วน้า)
มุมมองจากกลางสะพาน Pont des Amours |
Pont des Amours ในช่วง High Season |
สะพานคู่รักในยามค่ำคืน |
3. ย่านใจกลางเมือง
เดินเล่นชมสถาปัตยกรรมและทัศนียภาพรอบๆ Palais de l'Isle หรือ Palais de l'Île (ปาเลส์ เดอ ลีล) คุกเก่ากลางน้ำหน้าตาเก๋ๆ ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ประจำเมืองซึ่งมักปรากฏโฉมอยู่บนโปสการ์ด แม่เหล็กติดตู้เย็น หรือแม้แต่ลูกสโนว์โกลบ ที่แห่งนี้จะสวยงามเป็นพิเศษในหน้าร้อนและฤดูใบไม้ผลิด้วยดอกไม้หลากสีที่แข่งกันเบ่งบานแต่งแต้มความงามให้สถานที่ดูดียิ่งๆ ขึ้นไป
Palais de l'Île สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 บนเกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำ Thiou (ธิอู) สายน้อย นอกจากเคยเป็นที่จองจำนักโทษแล้ว ครั้งหนึ่งที่นี่ยังเคยเป็นที่อยู่ของเหล่าเจ้าขุนมูลนาย เคยเป็นโรงกษาปณ์ และยังเคยเป็นศาลยุติธรรมอีกด้วย และด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ปัจจุบัน Annecy ได้ใช้อาคารแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นประจำเมืองไปโดยปริยาย
และสำหรับใครที่ชอบวิถีคนเมือง ย่านใจกลางเมืองนี้ก็มีร้านรวงมากมายให้เราได้เดินช้อปปิ้งหรือนั่งจิบกาแฟเก๋ๆ หรือลิ้มรสไอศกรีมอร่อยๆ หลากหลายรสชาติในวันที่อากาศร้อนๆ ด้วยล่ะค่ะ
งานสถาปัตยกรรมภายในย่านใจกลางเมือง Annecy |
Palais de l'Île ที่มีรูปทรงคล้ายเรือกลางน้ำ |
มุมมองจากใจกลางเมืองอันมีภูเขาเป็นฉากหลัง |
Palais de l'Île ในยามวิกาล |
4. ปราสาทเมือง Annecy
สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ในศตวรรษที่ 12 บรรดาท่านเคานต์แห่ง Geneva ได้เข้ามาครอบครองพร้อมเข้ามาลงหลักปักฐาน และตกทอดมาสู่ดยุคแห่งราชวงศ์ Savoie-Nemours (ซาวัว-เนอมูร์) ในเวลาต่อมา
Château d'Annecy (ชาโต ดานซี) หรือปราสาทแห่งเมือง Annecy ผ่านการบูรณะหลายครั้งหลายคราเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ (อย่างน้อยน่าจะ 3 ครั้ง) มีความสูงอยู่ที่ 125 เมตร ประกอบด้วยหอคอยน้อยใหญ่ที่สร้างขึ้นต่างยุคต่างสมัย นอกจากสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นยุคกลาง (medieval) และยุคเรอเนสซองส์ (renaissance) เข้าไว้ด้วยกันอันดึงดูดให้เราเข้าไปสัมผัสความงามแล้ว ทุกวันนี้ปราสาทแห่งนี้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองอีกแห่ง จัดแสดงงานมรดกประจำถิ่น งานโบราณคดีใต้น้ำ งานประติมากรรมยุคกลาง งานจิตรกรรมภูมิทัศน์ งานศิลปะร่วมสมัย และภาพยนตร์แอนิเมชั่นอีกมากมาย
ทางเข้าปราสาท |
พื้นที่บริเวณปราสาท |
5. อาหารพื้นเมือง Savoyard
ลิ้มรสอาหารแนว Savoyard (ซาโวยาร์) อาหารจากแคว้นปกครองเชิงประวัติศาสตร์ Savoy (ซาวัว/ซาวอย) ซึ่งมีอิทธิพลทางด้านวัฒนธรรมต่อเขตการปกครอง Haute-Savoie (โอต-ซาวัว) ที่เมือง Annecy ขึ้นอยู่ในปัจจุบัน และเขต Savoie (ซาวัว) ด้วยภูมิอากาศที่ค่อนไปทางเย็น (และหนาวจัดในฤดูหนาว) เพราะตั้งอยู่บนที่ราบสูงและมีภูเขารายล้อม ทำให้ผู้คนที่นี่นิยมรับประทานอาหารที่หนักๆ เน้นไปทางชีสหรือของมันๆ เสิร์ฟร้อนๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น fondue Savoyarde (ฟงดู ซาโวยาร์ด) ที่นำเอาขนมปังไปจุ่มกินในหมอชีสร้อนๆ raclette (ราแกรตต์) ที่คอนเซปต์ใกล้เคียงกัน ได้อิทธิพลมาจากสวิสเซอร์แลนด์ แต่เปลี่ยนจากขนมปังมาเป็นมันฝรั่งและพวกเนื้อสำเร็จรูป cold cut ไส้กรอก pormonaise (ปอร์โมแนซ) หรือ pormonier (ปอร์โมนิเยร์) และไส้กรอก diot (ดิโอต์) ที่มักจะย่างหรือต้มในไวน์ขาว และ tartiflette (ตาร์ติแฟลตต์) เมนูทำจากมันฝรั่ง ชีส หมูสามชั้นและหัวหอม คล้าย gratin (กราแตง) หรือทาร์ตแบบคาว แต่ชีสที่ใช้ในเมนูเหล่านี้จะเป็นชีสท้องถิ่นของ Savoy อย่างเช่น Beaufort (โบฟอร์) Gruyère de Savoie (กรูแยร์ เดอ ซาวัว) หรือ Comté (กงเต) ค่ะ
จริงๆ แล้วอาหารบางเมนู อย่าง raclette หรือ fondue เราสามารถทำกินเองได้ที่บ้านง่ายๆ ถ้าอุปกรณ์และวัตถุดิบถึง (อย่าไปเล่าให้ร้านที่ไปกินฟังนะคะว่าเราบอกว่าอย่างนี้ ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ^^’) หรือ Crozets de Savoie (โรเซต์ เดอ ซาวัว) ที่ทำกินเองเหมือนเมนูพาสต้าได้ที่บ้าน ส่วนใครที่เบื่ออาหารแนวชีสๆ มันๆ เรามีร้าน Brasserie Saint Maurice มาแนะนำ ซึ่งเป็นร้านเดียวตอนนี้ที่ไปลองมาเองแล้วยกธงให้ผ่าน แถมยกนิ้ว (นิ้วโป้งนะคะ) ให้ด้วย อาจเป็นเพราะส่วนตัวรู้สึกว่าที่ Annecy หาร้านอาหารอร่อยๆ กินยากด้วยล่ะมั้งคะ และร้านนี้ไม่ได้เสิร์ฟเฉพาะอาหารพื้นเมืองนะคะ แต่ยังมีทั้งเมนูฟิวชั่น และทางร้านทำเองทุกอย่างแม้แต่ขนม ซึ่งค่อนข้างหาได้ยากค่ะ เพราะร้านอาหารในฝรั่งเศสหลายๆ ร้าน โดยเฉพาะร้านในเมืองที่มักใช้ดักนักท่องเที่ยวมักจะเสิร์ฟอาหาร/ขนมแช่แข็งที่ซื้อเขามาอีกทีค่ะ
ตัวอย่างเมนู Raclette |
เครื่องทำ Raclette รุ่นเก่า |
6. ภูเขา กิจกรรมบนเขา
นอกจากในตัวเมือง Annecy แล้ว แถบชานเมืองหรือเมืองใกล้ๆ ก็ยังมีหุบเขาน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Mont Veyrier (มงต์ แวย์ริเยร์) Col de la Forclaz (กอล เดอ ลา ฟอร์กลาซ์) La Tournette (ลา ตูร์แนตต์) Roc de Chère (รอค เดอ แชร์) ที่มองเห็นย่านพักตากอากาศ Talloires (ตาลัวร์) หรือ Semnoz (แซมโนซ์) ที่สามารถมองเห็นยอดเขา Mont Blanc (มงต์ บลอง) ได้อย่างชัดเจน โดยใช้เวลาขับรถมาจากในเมืองเพียงประมาณ 20-40 นาทีเท่านั้น
บนยอดหรือแนวเขาเหล่านี้เราสามารถขึ้นไปสำรวจ ชมวิว หรือแม้แต่ร่วมกิจกรรมอันน่าตื่นเต้น อาทิ ขี่จักรยานภูเขา ปีนเขา โหนสลิง zip line และที่ฮิตสุดๆ ก็เห็นจะเป็น paragliding หรือร่มร่อนนี่แหละค่ะ
ภาพที่เห็นเมื่อมองลงมาจาก Roc de Chère |
ที่ความสูงระดับนี้ Pargliding ดูจะเป็นกิจกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด |
7. ย่าน Talloires
ตอนแรกลังเลว่าจะใส่รายการนี้ลงในลิสต์ดีมั้ย แต่นึกเสียดายแทนทุกคนถ้ามา Annecy แล้วไม่ได้มาชมความงามของ Talloires เมืองพักตากอากาศสุดไฮโซแห่งนี้ ส่วนตัวยังไม่เคยไปเยี่ยม Talloires ในหน้าหนาว แต่ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเมืองที่อยู่ติดทะเลสาบและโอบล้อมด้วยภูเขา ทำให้หน้าร้อนที่นี่เหมือนสวรรค์บนดินจริงๆ ค่ะ แม้จะสู้ราคาที่พักไม่ไหว แต่แค่ได้มานั่งมอง นั่งชมบรรยากาศก็สุดคุ้มค่าแล้วล่ะค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถลงเล่นน้ำในทะเลสาบตามบริเวณหาดหรือรับประทานอาหารในร้านพร้อมเสพอาหารตา (หมายถึงวิวนะคะ) ไปด้วยที่นี่ก็มีร้านอร่อยให้เลือกมากมาย พูดถึงร้านอาหาร จำได้ว่าที่ย่านนี้มีร้านอาหารติดดาวมิชลิน (2 ดาว) อย่าง Jean Sulpice ที่ให้บริการทั้งวิวสวยๆ และอาหารรสเลิศอยู่ด้วยนะคะ ส่วนเรื่องราคา...ได้ยินมาว่าสูงไม่แพ้ภูเขาในแถบนี้เลยล่ะค่ะ 😅
วิวที่เหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ของเมือง Talloires |
มุมน่ารัก ณ ท่าเรือของเมือง |
8. สเก็ต
อ่านมาถึงข้อนี้ ทุกคนอาจจะกระพริบตาปริบๆ แต่เชื่อเถอะค่ะว่ามาถึง Annecy แล้วเราจะสังเกตเห็นว่าสเก็ต โดยเฉพาะสเก็ตบอร์ด (และโดยเฉพาะ Longboard) แทบจะเป็นอีกหนึ่งพาหนะที่ผู้คนนิยมใช้สัญจรไปมารองลงมาจากรถยนต์ รถโดยสาร และจักรยาน ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดถึงทำให้เมืองแห่งนี้เป็นที่นิยมของบรรดานักสเก็ตบอร์ด นอกจากเป็นเมืองแห่งแรกในฝรั่งเศสที่มีการปิดถนนเพื่อจัดการแข่งขันสเก็ตบอร์ดแบบดาวน์ฮิลล์แล้ว ที่ Annecy ยังมี skate park ที่ติดอันดับหนึ่งใน skate park ที่ทันสมัยที่สุดในโลกด้วยนะคะ ในช่วงวันหยุด เราจะเห็นกลุ่มนักสเก็ตไปรวมกลุ่มกันที่นี่มากมาย ถึงไม่ได้เล่น แต่ไปยืนเฉยๆ ดูเขาเล่นยังเพลินเลยค่ะ
ส่วนตัวเราเองนั้น เพิ่งจะหัดถูๆ ไถๆ ได้ไม่นาน ใช้แทนการเดินเล่นบ้างอะไรบ้าง (ถ้ารีบจริงวิ่งเอาน่าจะเร็วกว่า) แต่รู้สึกได้ว่าถนนและทางเท้าของที่นี่ค่อนข้างเอื้ออำนวยในการไถบอร์ดเล่นมากกว่าหลายๆ เมือง โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ที่เต็มไปด้วยรถราและขี้หมา (ขออภัยที่พูดตรงนะคะ) เราไปส่องๆ ดูในอินเทอร์เน็ตพบว่ามีแบรนด์สเก็ต Longboard ท้องถิ่นใน Annecy ที่ผลิตงานสวยๆ อยู่เจ้าหนึ่งค่ะ ชื่อว่า Legende Longboard (เลอฌองด์ ลองบอร์ด) เป็นงานคราฟท์งานแกะไม้สวยๆ ทำมือทั้งนั้นเลยค่ะ ส่วนตัวสู้ราคาไม่ไหว แต่ก็อดเข้าไปส่องดู เข้าไปชื่นชมไม่ได้ค่ะ
กิจกรรมตามฤดู
ด้วยสภาพอากาศที่ต่างกันลิบลับในแต่ละฤดู โดยเฉพาะหน้าร้อนและหน้าหนาว ดังนั้นถ้าอยากเที่ยวแบบสนุกไร้อุปสรรค ควรศึกษาสภาพอากาศและประเภทกิจกรรมที่เราทำได้ในช่วงที่เรามาเที่ยวไว้ก่อนเพื่ออรรถรสในการท่องเที่ยวแบบไม่เสียเที่ยวค่ะ และกิจกรรมที่เราอยากนำเสนอมีดังนี้ค่ะ
ฤดูร้อน
- ปั่นจักรยานเที่ยว บนเส้นทางจักรยานที่มีความยาวถึง 42 กม. หรือจะปั่นรอบทะเลสาบก็ยังได้ แต่ต้องคอยระวังรถยนต์ที่ผ่านไปมาด้วยนะคะ เพราะถนนบางช่วงแคบมากและรถบางคันก็วิ่งด้วยความเร็วสูง- กิจกรรมทางน้ำ ที่มีให้เลือกสนุกมากมาย อาทิ paddleboard (บอร์ดแบบยืนพาย) เวกบอร์ด ล่องเรือ ดำน้ำ หรือถ้าชอบชิลๆ หน่อย ก็เช่าเรือถีบโลดค่ะ เอาของกินไปปิกนิกบนเรือยังได้ (เรานี่เคยหอบชามสลัดจากบ้านไปกินเลยค่ะ 😆)
- เปตอง กีฬายอดนิยมในหน้าร้อน หรือวันอากาศดีๆ ผู้คนจะพากันออกมาโยนลูกเหล็กไป ชนแก้วดวลขวดกับเพื่อนๆ ไป เมาท์มอยกันไป นับเป็นกิจกรรมที่ไม่ว่าคนไหนวัยไหนก็ร่วมได้ค่ะ
- เดินป่าเดินเขา เข้าใกล้ธรรมชาติยิ่งขึ้นบนเส้นทางเดินที่มีหลายเลเวลให้เลือกทั้งความชันและความไกล หรือหากต้องการยกระดับความโลดโผน การสำรวจแนวแคนยอนก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยค่ะ เพราะนอกจากการเดินแล้ว เรายังจะได้ฝึกทักษะการกระโดด โรยตัว ปีนป่าย และว่ายน้ำ อีกด้วย
ฤดูหนาว
- สกีหรือสโนว์บอร์ด เพชรน้ำงามแห่งเทือกเขาแอลป์แห่งนี้มีภูเขาหลายลูกที่สามารถให้เราขึ้นไปทำกิจกรรมยอดฮิตยามหิมะปกคลุมทั่วทั้งแนวที่ราบสูง ซึ่งสามารถตามดูได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ- ขับสโนว์โมบิล แล่นล่องสะเทิ้นบกไปตามทางที่เต็มไปด้วยหิมะ กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับสิงห์นักบิดหรือคนที่ชอบความเร็วอย่างแท้ทรู
- ชมทัศนียภาพที่แตกต่างแต่งดงาม ยอดเขาขาวโพลน หลังคาบ้านเรือนปกคลุมไปด้วยหิมะ และถ้าโชคดีเจออากาศหนาวจัดๆ (จะเรียกว่าโชคดีดีมั้ยคะ) เราอาจจะได้เห็นคลองหรือทะเลสาบบางส่วนที่กลายเป็นน้ำแข็งก็ได้ค่ะ
English Version click here
Comments
Post a Comment