เที่ยวตลาดคริสต์มาสส่งท้ายปีที่ Cologne

 English version click here


ในปีแรกของการมาเรียนที่ฝรั่งเศส เราเหล่านักศึกษาต่างชาติผู้ไร้บ้าน เอ้ย! ไร้ครอบครัวญาติพี่น้องในฝรั่งเศส และไม่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลต่างก็พากันจับกลุ่มหากิจกรรมทำคลายเหงากันไปค่ะ และหนึ่งในกิจกรรมเหล่านั้นก็คือการไปเที่ยวแบบ One day trip ค่ะ ไหนๆ เราก็อยู่ในเมือง Lille (ลีล) ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Hub หรือศูนย์กลางของยุโรปแล้ว คราวนี้เรากับเพื่อนๆ เลยถือโอกาสไปเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสอันโด่งดัง ณ เมือง Cologne (โคโลญ) ประเทศเยอรมนีกันค่ะ

จาก Lille เดินทางตรงดิ่งมายังเมือง Cologne โดยรถบัสแบบเหมาคันใช้เวลาประมาณเกือบ 4 ชั่วโมง เราที่แม้จะยังสะลึมสะลือจากการงีบยาวบนรถรีบคว้ามือเพื่อนและแผนที่ออกไปสำรวจเมืองแบบ ชะโงกทัวร์อย่างไม่รีรอแม้ฝนจะเริ่มตั้งเค้ามาแต่ไกล โดยจุดหมายแรกของเราก็หนีไม่พ้นแลนด์มาร์กของเมืองอย่าง Cologne Cathedral มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่ามหาวิหารแห่งเมือง Cologne แห่งนี้ได้รับอิทธิพลของสถาปัตยกรรมโกธิกมาแบบเต็มๆ โดยเริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 แต่กว่าจะแล้วเสร็จเป็นรูปเป็นร่างก็กว่าอีก 6 ศตวรรษถัดมา ทุกวันนี้ Cologne Cathedral ถือเป็นมรดกโลกอีกชิ้นหนึ่ง ด้วยความสูง 157 เมตร โบสถ์อาสนวิหารแห่งนี้ถูกบันทึกชื่อไว้ในฐานะโบสถ์หอคอยคู่ที่สูงที่สุดในโลก และเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดเป็นอันดับสามของโลก

มหาวิหารอันเลืองชื่อแห่งเมือง Cologne

อีกมุมของ Cologne Cathedral

มหาวิหาร Cologne ในยามค่ำคืน

หลังจากชื่นชมความอลังการกันอยู่ด้านหน้ามหาวิหารสักครู่ เราก็รีบไปต่อทันทีค่ะ (บอกแล้วว่าชะโงกทัวร์) อีกด้านของวิหารเป็นตลาดคริสต์มาสแห่งแรกที่เราค้นพบค่ะ (เพิ่งรู้ตอนหาข้อมูลเพื่อเขียนนี่เองว่าใน Cologne มีตลาดคริสต์มาสอยู่ด้วยกันถึง 6 แห่งแน่ะค่ะ) Weihnachtsmarkt am Kölner Dom คือชื่อของตลาดอันหมายถึง Cologne Cathedral Christmas Market แต่เนื่องจากยังเช้าเกินไป เขาเลยยังไม่ค่อยเปิดร้านกันเลย (แง่ว) เรากับเพื่อนๆ เลยไปเดินเล่นในเมืองฆ่าเวลาก่อน เดินชมตึกรามบ้านช่องอยู่เพลินๆ จนมาถึงริมน้ำ เราก็เจอคุณลุงท่าทางใจดีคนนึงกำลังทำฟองสบู่ขนาดยักษ์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยเห็น สร้างความตื่นตาและตื่นเต้นให้กับเด็กและแม้แต่ผู้ใหญ่ที่ผ่านไปมาไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

บรรยากาศภายในเมืองยามเช้าวันฝนพรำ

ทางเข้า Weihnachtsmarkt am Kölner Dom อันมีมหาวิหารเป็นฉากหลัง

 
 

ฟองสบู่ใหญ่ยักษ์เรียกความสนใจจากผู้คนที่ผ่านไปมาได้ชะงัดนัก

เราเดินฝ่าลมหนาวที่มาพร้อมฝนอย่างอิดออดจนมาถึงสะพาน Hohenzollern (โฮเฮนโซลเลิร์น) สะพานข้ามแม่น้ำ Rhine  (ไรน์) อันโด่งดังประจำเมือง เมื่อเห็นสะพานแห่งนี้เราจึงได้รู้ซึ้งถึงค่านิยมของการท่องเที่ยวยุคใหม่มากขึ้น ไม่ต่างอะไรจาก Pont Des Arts (ปงต์ เดส์ ซาร์ส์) ใน Paris หรือ Namsan Tower ใน Seoul ที่คู่รักคู่หวานทั้งหลายต่างพากันนำแม่กุญแจมาคล้องไว้ตามแนวรั้วเหล็กตามความเชื่อที่หวังว่ารักของสองคนจะอยู่จนชั่วนิรันดร์ แนวสะพาน Hohenzollern แน่นขนัดไปด้วยแม่กุญแจหลากสีหลากขนาดที่มองดูไกลๆ อาจเข้าใจว่าเป็นสีของสะพานก็เป็นได้ ในขณะที่เพื่อนสาวของเรากำลังหาที่คล้องกุญแจอย่างยากเย็นไม่ต่างจากการเล่นเกม ‘Where's Wally?’ เราผู้ไร้ซึ่งความเชื่อและความโรแมนติกก็มาเดินเล่นตามแนวสะพาน มองหาเหล่าแม่กุญแจแปลกๆ เล่นเพลินๆ จนเจอทั้งแม่กุญแจที่เก่าเก็บสนิมเขรอะ (แต่ดูขลัง) แม่กุญแจที่ใหญ่เวอร์แบบไม่ต้องกลัวว่าจะกลับมาหาไม่เจอ หรือแม้แต่ของแปลกๆ ที่คนพยายามเอามาคล้องแทนแม่กุญแจอย่างเช่น โซ่คล้องจักรยาน ไปจนถึงพ่อค้าแม่ค้าหัวใสที่แอบเอานามบัตรร้านกุญแจของตนมาโฆษณาไว้ก็มีค่ะ ว่ากันว่าในปี 2015 อันเป็นปีที่เราไปเยือน Cologne นั้น มีแม่กุญแจถูกคล้องไว้บนสะพานแห่งนี้ประมาณ 500,000 อันทีเดียวค่ะ!

แนวสะพาน Hohenzollern แน่นขนัดไปด้วยแม่กุญแจหลากสี


มีคนแอบเอานามบัตรมาแซมไว้ด้วย!

แม่น้ำไรน์จากมุมมองบนสะพาน

กุญแจ...เจ้าจงไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนน....

จากนั้นเราก็มาเดินเล่นกันต่อในย่านเมืองเก่าจนมาจ๊ะเอ๋กับตลาดคริสต์มาสอีกแห่งที่เราดันลืมชื่อไปเสียแล้ว 😅 จำได้แค่ว่ามีร้านรวงเก๋ๆ มากมาย ให้ความรู้สึกคล้ายหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์อย่างไงอย่างงั้น แถมยังมีห้องน้ำสาธารณะที่น่าตาน่ารักเกินกว่าจะเป็นห้องน้ำอีกด้วยค่ะ

 

อาคารสีพาสเทลสุดหวานในย่านเมืองเก่า

Bimmelbahn รถไฟนำเที่ยวเมือง

ร้านขายแอลกอฮอล์ที่ดูมุมไหนก็เท่ ทั้งการตกแต่งและเจ้าของร้าน

เครื่องดื่มหลากสีในขวดยาเก๋ๆ


ห้องน้ำน่ารักเกิ๊น

เดินเล่นมาครึ่งวันได้ แต่ฟ้าฝนก็ยังไม่ปราณีคนที่เดินทางมาไกลอย่างพวกเรา จิบเครื่องดื่มร้อนๆ คลายหนาวเท่าไหร่ก็ยังไม่พอที่จะช่วยอบอุ่นร่างกาย เราและเพื่อนๆ เห็นว่าน่ากลัวจะเสียเวลาเปล่าในการรอให้ฝนหยุดฟ้าเปิด จึงพากันชูสองนิ้วเดินต่อจนมาถึงยังตลาดคริสต์มาสอีกแห่ง จากป้าย ตลาดแห่งนี้มีชื่อว่า Wintermärchen Kölner Altstadt ซึ่งหมายถึงตลาด Fairy Tale ในย่านเมืองเก่าของ Cologne ที่นี่เป็นตลาดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดของเมืองซึ่งถูกสร้างขึ้นมาด้วยจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด นอกจากอาหารและขนมที่วางขายกันอยู่มากมายละลานตาแล้ว ตลาดเทพนิยายแห่งนี้ยังมีกิจกรรมหน้าหนาวอย่าง ลานสเก็ตน้ำแข็งแบบ open air และเกมกีฬาที่เรียกว่า ice stock curling’ ให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เข้าไปเล่นสนุกกันอีกด้วยค่ะ

ผู้คนเริ่มหลั่งไหลพากันมาเดินเที่ยวแม้สภาพอากาศจะไม่เป็นใจ

ทางเข้าตลาด Wintermärchen Kölner Altstadt

Kürtőskalács หรือ Spit cake

เกมกีฬา ice stock curling

ลานสเก็ตน้ำแข็งคราคร่ำไปด้วยคนแทบทุกวัย

คาเฟ่เล็กๆ ในตลาด

อาหารจานด่วนสไตล์เยอรมัน Currywurst

เวลาล่วงเลยผ่านไปไวกว่าที่คิดไว้ เผลอแป๊บเดียวก็จะหมดวันหมดเวลาเที่ยวแล้ว ก่อนขึ้นรถกลับ Lille พวกเราใช้เวลาที่เหลือแวะตลาดอีกแห่งให้สาสมกับที่เดินทางข้ามประเทศมา ที่ตลาด Markt der Engel  หรือตลาดนางฟ้านี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงอาทิตย์ลาลับได้ประจวบเหมาะกับจังหวะที่เราเข้าไปเยี่ยมชมพอดี หรือเพราะตลาดแห่งนี้มีดีที่การจัดไฟกันแน่ เพราะตั้งแต่แวะชมตลาดมาเรารู้สึกว่าที่นี่มีการตกแต่งไฟได้สวยที่สุด เพราะฉะนั้นแม้จะไม่ใช่ขาช็อปฯ แต่แค่ได้เดินจิบไวน์ร้อนดูไฟที่เขาประดับไว้ก็เพลินเสียยิ่งกว่าอะไรแล้วล่ะค่ะ นอกจากร้านรวงที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามแล้ว ที่ Markt der Engel ยังมีการจัดฉากการประสูติของพระเยซูตามธรรมเนียมแต่หลุดกรอบด้วยการใช้ตุ๊กตาที่สวมเครื่องแต่งกายเข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน และมีการประดับไฟรูปดาวจำนวนเกือบพันดวงตลอดทั่วแนวน่านฟ้าเหนือตลาด ซึ่งช่วยเพิ่มความตระการตาให้กับตลาดได้เป็นอย่างมากทีเดียวค่ะ

ทางเข้า Markt der Engel ประดับไฟไว้อย่างงดงาม

เป็นฉากการประสูตรที่เราไม่กล้ายืนดูคนเดียวเลย

ร้านค้าแต่งไฟได้น่ารักมาก

ดาวไฟนับพันประดับเต็มฟ้าตลาดนางฟ้า

น่าเสียดายที่วิกฤตการณ์โควิด 19 ในปีนี้ทำให้ตลาดคริสต์มาสใน Cologne ถูกยกเลิกแทบทั้งหมด แต่เราเชื่อค่ะว่าอีกไม่นานเกินรอท้องฟ้าจะกลับมาสดใสอีกครั้ง แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น...อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในเทศกาลส่งท้ายปีและมีความสุขยิ่งขึ้นในปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือนนะคะ Merry Christmas & Happy New Year ค่ะ

English version click here 

Comments

Popular posts from this blog

เที่ยว Lyon ลงไปทำอะไรดี

8 ของดีเมือง Annecy มาทั้งทีควรโดน

ฝรั่งเศสทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด ตอน งานวัดสไตล์ฝรั่งเศส