รีวิวงาน Color Me - สาดสีตีไข่ใส่ความสนุก

 English version click here

เราใฝ่ฝันอยู่เสมอว่าหากมีโอกาส อยากจะเข้าร่วมงานสาดสี เทศกาลโฮลี (Holi Festival) ที่ประเทศอินเดียดูสักครั้ง แต่...อย่าว่าแต่ไปร่วมงานโฮลีเลยค่ะ แผ่นดินอินเดียเรายังไม่เคยได้ไปเหยียบเลย เมื่อปีแรกที่มาอยู่ฝรั่งเศส (2015) ได้เห็นโฆษณางาน Color Run ที่น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานโฮลีของอินเดีย แค่เปิดดูรูปกิจกรรมคร่าวๆ เราลงก็ประกาศหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในโซเชียลมีเดียทันที ...ผลปรากฏว่า ไม่มีใครสนใจเลยจ้า 😭 เราเลยไปกึ่งชวนกึ่งอ้อนเพื่อนสนิทชาวมะกันคนหนึ่งที่เคยเรียนด้วยกันให้ไปเป็นเพื่อน (จะไปวิ่ง ไปเล่นคนเดียวมันก็เขินอยู่นะคะ) โชคดีที่เพื่อนตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล (เย่! 😁)

ย้อนกลับมาที่เทศกาลโฮลีของชาวฮินดูกันสักนิด ทราบมาว่าคอนเซปต์ของเทศกาลนี้เกิดมาจากตำนานความเชื่อในชัยชนะของพระวิษณุที่มีต่อนางมารโฮลิกะ (Holika) ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่มาของชื่อเทศกาลนี้ ทั้งนี้เทศกาลโฮลีจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิอันเป็นรอยต่อระหว่างฤดูหนาวก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมักจะเจ็บป่วยไม่สบายกันได้ง่าย นอกจากการโปรยสีใส่กันอย่างสนุกสนานแล้วชาวฮินดูแต่โบราณยังได้แฝงศาสตร์ในการรักษาโรคเข้าไว้กับเทศกาลนี้ด้วย เพราะสีที่ใช้ปาใส่กันในเทศกาลนั้นมาจากธรรมชาติ เป็นสีของเครื่องเทศนานาชนิด อาทิ ขมิ้น บีทรูท ใบมะตูม ที่มีคุณสมบัติช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับเรื่องกายได้ด้วย ฉลาดล้ำมากๆ เลยล่ะค่ะ!

กลับมาต่อกันที่งาน Color Run ที่เราไปร่วม จัดโดยหน่วยงานที่ใช้ชื่อว่า Color Me Rad (Rad นี่น่าจะย่อมาจาก Radical นะคะ ไม่ใช่ Rad ในภาษาไทย 😆) คอนเซปต์ของงานคือการวิ่งไปตามเส้นทางธรรมชาติบ้างหรือที่มนุษย์สร้างบ้างเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรเบาๆ จิ๊บๆ แต่...คนที่วิ่งแค่ 2-3 กิโลเมตรต่อวันอย่างเรา มินงมินิมาราธอนอะไรก็ไม่เคยไปกับเขา ก็ต้องซ้อมไว้ก่อนวันงานจริงบ้างค่ะ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมร่างกายและใจ

เมื่อถึงวันงาน วันหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิปลายเดือนพฤษภาคม เรากับเพื่อนสาวนักวิ่งสมัครเล่นแต่เป็นนักเล่นระดับอาชีพ ก็มุ่งหน้าไปที่สนามกีฬา Lille Métropole (ลีล เมโทรโปล) ในเวลาใกล้เที่ยง (รอบที่เลือกไว้คือ 12.30 น.ค่ะ) ภายในงานคลาคล่ำไปด้วยผู้ร่วมกิจกรรมแทบทุกวัย มีทั้งวัยรุ่น คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เรา หรือแม้แต่เด็กน้อยเดินเตาะแตะก็มีค่ะ เห็นแบบนี้แล้วก็คิดในใจว่า “ถ้าวิ่งไม่ไหวนี่คงจะน่าอับอายมากๆ เลยนะ” 😅 แล้วเราก็สวนกันกับกลุ่มผู้ร่วมงานชุดก่อนหน้าที่เดินออกมาในลักษณะสะบักสะบอม 55! ล้อเล่นค่ะ 😂 พวกเขาแค่แปลงร่างจากมนุษย์เป็นยูนิคอร์นคลุกฝุ่นเท่านั้นเอง ยิ่งเห็นอย่างนี้เรายิ่งตื่นเต้นค่ะ อยากโดนสาดสีเทสีบ้างไวๆ จัง เลยรีบลงไปรวมตัวกับคนอื่นที่จุดสตาร์ท 

ผู้คนหนาตามารวมตัวกันที่สนามกีฬา

สภาพผู้ร่วมงานรอบก่อน



บรรดาผู้ร่วมงานต่างมายืนรอการออกตัวกันอย่างชิลๆ


ทุกคนดูเหมือนจะอดใจรอกันไม่ไหวแล้ว 😆

เมื่อสิ้นเสียงสัญญาณ นักวิ่งทุกคนทุกเพศทุกวัยก็ออกตัว...เดินอย่างชิลๆ...555! 😂 บ้างก็ออกวิ่งเหยาะๆ ออกจากจุดเริ่มต้นจนมาเจอกับด่านสีแต่ละด่านซึ่งตั้งอยู่ห่างกันไปราว 1 กม.เห็นจะได้ค่ะ เขียว ชมพู ฟ้า เหลือง ฝุ่นสีทั้งหลายถูกปา เท พรม และโรยลงบนตัวของผู้รวมกิจกรรมตามลำดับ บ้างก็ถูกสั่งให้ทิ้งตัวลงไปกลิ้งคลุกกับสีที่พื้นด้วย (เอาสิ) มาถึงตรงนี้ต้องอธิบายว่า น่าเสียดายที่กิจกรรมนี้เขาไม่ได้ใช้สีจากเครื่องเทศ สีจากธรรมชาติเหมือนที่อินเดียเขาใช้เล่นกัน แต่สีเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายเรานะคะเพราะเป็นผงสีที่ทำมาจากแป้งข้าวโพดผสมกับสีถนอมอาหารค่ะ ดังนั้นจะด้อยกว่าที่อินเดียก็คือขาดอรรถรสในกลิ่นหอมๆ และสรรพคุณในการสร้างภูมิคุ้มกันไปค่ะ (แต่ได้สุขภาพจากการวิ่งแทน อิๆ) 

เดินสวยๆ ออกจากจุดสตาร์ท

บ้างก็ออกวิ่งอย่างจริงจัง

ด่านแรกสีเขียว

ทีมงานผู้รอคอยที่จะป้ายสีพวกเรา

คุณพ่อที่หนีบลูกๆ มาเล่นด้วย

ณ ด่านสีชมพู

สีฟ้าจ๋า พี่มาแล้ว

1...2...3 กลิ้ง ปฏิบัติ!

ด่านสุดท้าย สีเหลือง


เมื่อวิ่งผ่านครบทั้ง 4 สี 4 ด่าน เราก็จะมาเจอกับเส้นชัยและเวทีคอนเสิร์ตค่ะ ลืมบอกไปว่างานนี้ไม่มีรางวัล ไม่มีผู้แพ้ผู้ชนะ ดังนั้นรางวัลที่ได้ก็เห็นจะมีแต่ความสนุกนี่แหละค่ะ เสียงเพลงเทคโนกระหึ่มก้องไปทั่วลานคอนเสิร์ต ผู้เข้าร่วมงานวัยหนุ่มสาวต่างเริ่มกระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะดนตรี ในขณะที่ลุงๆ ป้าๆ ต่างค่อยๆ อุ้มลูกจูงหลานกลับบ้านไปพักร่างกันทีละกลุ่มสองกลุ่ม เรากับเพื่อนที่อยู่ในวัย ‘รุ่นปลายๆ’ กระโดดโลดเต้นอยู่ได้ไม่นานก็ต้องขอยอมแพ้เหมือนกันค่ะ กลับบ้านไปอาบน้ำ หาอะไรกินดีกว่า

สภาพทุกคนหลังจบเกม

 
สภาพเราก่อนและหลังวิ่งค่ะ 😆

เพลงเทคโนกระหึ่มไปทั่วลานดนตรี



หนูน้อยดูจะอินกับดนตรีแนวนี้เป็นพิเศษ

เผื่อใครที่สนใจอยากเข้าร่วม กิจกรรม Color Run และ Color Me Rad จัดขึ้นตามเมืองใหญ่ๆ หลายประเทศ และเห็นอยู่ผ่านๆ ว่าเริ่มมาจัดที่เมืองไทยกันด้วยแล้วนะคะ สำหรับงานนี้เราเสียเงินไปเบ็ดเสร็จ 26 ยูโรค่ะในราคานักเรียน (คนทั่วไป 28 ยูโร ส่วนเด็กน้อยแค่ 2 ยูโรเท่านั้นค่ะ) สิ่งที่ได้มาคือเสื้อยืดสีขาวสำหรับใส่วันงาน 1 ตัว ถุงสี 1 ถุง (เลือกสีตามชอบ) แว่นตากันฝุ่นสี (ตามแต่รอบ) 1 อัน สติ๊กเกอร์แทททู RAD 1 แผ่น และป้ายหมายเลขผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่สามารถเก็บไว้เป็นที่ระทึกได้เช่นกัน นับว่าแพงอยู่นะคะราคานี้ แต่คิดว่าคงอีกนานกว่าจะได้ไปอินเดีย ก็ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ชิมลางไปแล้วกันค่ะ แล้วถ้าวันหนึ่งได้ไปร่วมงานโฮลีจริงๆ เมื่อไหร่จะไม่ลืมไม่เล่าให้อ่านแน่ค่ะ 😉 

สภาพผู้ร่วมงานขณะเดินทางกลับบ้าน

 English version click here 

Comments

Popular posts from this blog

เที่ยว Lyon ลงไปทำอะไรดี

8 ของดีเมือง Annecy มาทั้งทีควรโดน

เที่ยวตลาดคริสต์มาสส่งท้ายปีที่ Cologne