Fête des Classes – งานรวมพลคนปี 9
English Version click here
เมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2019 ขณะที่เราได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ที่ Cours-la-Ville เมืองเล็กๆ ในเขตการปกครอง Rhône (โครน) ซึ่งอยู่ห่างจาก Lyon (ลียง) ไปราว 80 กม. เราได้สัมผัสกับชีวิตชนบทในฝรั่งเศสที่แท้จริง ที่นี่รายล้อมไปด้วยหุบเขา ผืนป่า ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และบรรยากาศอันแสนสงบ นอกจากทัศนียภาพที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ๆ แล้ว เมืองแห่งนี้ยังมีงานเทศกาลประจำปีท้องถิ่นที่แปลกต่างไปจากหลายๆ เมืองในฝรั่งเศสอีกด้วย
ป้ายผ้า “Vive les classes en 9” (วีฟ เลส์ กลาส ออง เนิฟ) ถูกนำมาขึงไว้บริเวณจตุรัสกลางเมือง ตอนแรกเราเข้าใจไปว่าเป็นงานอะไรสักอย่างของโรงเรียน เพราะมีคำว่า ‘classe’ ที่แปลได้ว่า ‘ชั้นเรียน’ อยู่ด้วย เมื่อสอบถามผู้รู้จึงได้คำอธิบายว่า งานเทศกาล ‘La Fête des Classes’ (ลา แฟตส์ เดส์ กลาสซ์) คืองานที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่เกิดในปีที่ลงท้ายด้วยตัวเลขเดียวกับปีปัจจุบัน งงมั้ยคะ ตัวอย่างเช่น ปีนี้คือปี 2020 เพราะฉะนั้น Fête des Classes ของปีนี้ก็จะเป็นงานฉลองสำหรับคนที่เกิดปี 2020, 2010, 2000, 1990, 1980,… ไล่ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นคนที่มาร่วมงานปีนี้ก็จะเป็นคนที่มีอายุครบ 10, 20, 30, 40, 50,… ขวบนั่นเอง
จากข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งมีอยู่น้อยมากในอินเทอร์เน็ต เราจะสามารถพบเห็นเทศกาล Fête des Classes ได้หลักๆ เฉพาะในเมืองที่อยู่แถบ Haut-Beaujolais (โอต์-โบโฌเลส์) หรือให้เห็นภาพง่ายขึ้นก็คือเมืองทางตอนเหนือของ Lyon บรรดาเมืองซึ่งตั้งอยู่ในเขตการปกครอง Rhône ไปจนถึงเมืองอื่นๆ ภายในแคว้น Auvergne-Rhône-Alpes (โอแวนญ์-โครน-อาลป์) แต่ก็อาจพบได้เช่นกันในเมืองแถบ Haute-Bretagne (โอต-เบรอตาญ) หรือแคว้นเบรอตาญตอนเหนือ ส่วนทำไมต้องเรียกว่า ‘classe’ แฟนเราซึ่งเป็นคนฝรั่งเศสตั้งข้อสันนิษฐานเองว่า แม้คำคำนี้จะแปลว่า ‘กลุ่ม’ ‘พวก’ หรือ ‘ชนชั้น’ ได้ด้วย แต่เดาว่า ‘classe’ ตัวนี้น่าจะหมายถึงชั้นเรียนอย่างที่เราเข้าใจ โดยน่าจะหมายถึงคนที่อยู่ในชั้นเรียนปีเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่ก็เกิดปีเดียวกันนั่นเอง
จากข้อมูลเพียงหยิบมือที่พบมา คาดว่าแต่ละเมืองอาจมีการเฉลิมฉลอง Fête des Classes ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย โดยมีรูปแบบกิจกรรม อาทิ การไปกราบไหว้ผู้สูงอายุและบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ การประกอบพิธีมิสซา การออกทริปเที่ยวภายในแคว้น ปาร์ตี้งานเลี้ยงกลางคืน แต่กิจกรรมที่ดูเหมือนจะขาดไม่ได้สำหรับทุกเมืองก็คือการเดินขบวนพาเหรดและการดื่มฉลอง!
ณ ถนนหน้า Hôtel de Ville (โอแตล เดอ วิลล์) หน่วยงานราชการเทียบเท่าได้ประมาณเทศบาลในบ้านเรา ผู้คนต่างมายืนเรียงรายตามแนวขอบฟุตบาธเพื่อรอชมขบวนแห่อย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะเด็กตัวน้อยๆ รวมถึงตัวเราเองที่เพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นงานประเพณีนี้เป็นครั้งแรก รถจี๊ปทหารอย่างเท่นำขบวนมาพร้อมดอกไม้สีตัดกัน น้ำเงิน-ขาว-แดง ตามสีธงชาติฝรั่งเศสแต่เรียงรายร้อยไว้ด้วยกันอย่างเป็นระเบียบในรูปของเลข 9 บ่งบอกเลขท้ายปีเกิดของผู้เฉลิมฉลอง (และปีปัจจุบัน)
ป้ายผ้า “Vive les classes en 9” (วีฟ เลส์ กลาส ออง เนิฟ) ถูกนำมาขึงไว้บริเวณจตุรัสกลางเมือง ตอนแรกเราเข้าใจไปว่าเป็นงานอะไรสักอย่างของโรงเรียน เพราะมีคำว่า ‘classe’ ที่แปลได้ว่า ‘ชั้นเรียน’ อยู่ด้วย เมื่อสอบถามผู้รู้จึงได้คำอธิบายว่า งานเทศกาล ‘La Fête des Classes’ (ลา แฟตส์ เดส์ กลาสซ์) คืองานที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่เกิดในปีที่ลงท้ายด้วยตัวเลขเดียวกับปีปัจจุบัน งงมั้ยคะ ตัวอย่างเช่น ปีนี้คือปี 2020 เพราะฉะนั้น Fête des Classes ของปีนี้ก็จะเป็นงานฉลองสำหรับคนที่เกิดปี 2020, 2010, 2000, 1990, 1980,… ไล่ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นคนที่มาร่วมงานปีนี้ก็จะเป็นคนที่มีอายุครบ 10, 20, 30, 40, 50,… ขวบนั่นเอง
จากข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งมีอยู่น้อยมากในอินเทอร์เน็ต เราจะสามารถพบเห็นเทศกาล Fête des Classes ได้หลักๆ เฉพาะในเมืองที่อยู่แถบ Haut-Beaujolais (โอต์-โบโฌเลส์) หรือให้เห็นภาพง่ายขึ้นก็คือเมืองทางตอนเหนือของ Lyon บรรดาเมืองซึ่งตั้งอยู่ในเขตการปกครอง Rhône ไปจนถึงเมืองอื่นๆ ภายในแคว้น Auvergne-Rhône-Alpes (โอแวนญ์-โครน-อาลป์) แต่ก็อาจพบได้เช่นกันในเมืองแถบ Haute-Bretagne (โอต-เบรอตาญ) หรือแคว้นเบรอตาญตอนเหนือ ส่วนทำไมต้องเรียกว่า ‘classe’ แฟนเราซึ่งเป็นคนฝรั่งเศสตั้งข้อสันนิษฐานเองว่า แม้คำคำนี้จะแปลว่า ‘กลุ่ม’ ‘พวก’ หรือ ‘ชนชั้น’ ได้ด้วย แต่เดาว่า ‘classe’ ตัวนี้น่าจะหมายถึงชั้นเรียนอย่างที่เราเข้าใจ โดยน่าจะหมายถึงคนที่อยู่ในชั้นเรียนปีเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่ก็เกิดปีเดียวกันนั่นเอง
จากข้อมูลเพียงหยิบมือที่พบมา คาดว่าแต่ละเมืองอาจมีการเฉลิมฉลอง Fête des Classes ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย โดยมีรูปแบบกิจกรรม อาทิ การไปกราบไหว้ผู้สูงอายุและบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ การประกอบพิธีมิสซา การออกทริปเที่ยวภายในแคว้น ปาร์ตี้งานเลี้ยงกลางคืน แต่กิจกรรมที่ดูเหมือนจะขาดไม่ได้สำหรับทุกเมืองก็คือการเดินขบวนพาเหรดและการดื่มฉลอง!
ณ ถนนหน้า Hôtel de Ville (โอแตล เดอ วิลล์) หน่วยงานราชการเทียบเท่าได้ประมาณเทศบาลในบ้านเรา ผู้คนต่างมายืนเรียงรายตามแนวขอบฟุตบาธเพื่อรอชมขบวนแห่อย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะเด็กตัวน้อยๆ รวมถึงตัวเราเองที่เพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นงานประเพณีนี้เป็นครั้งแรก รถจี๊ปทหารอย่างเท่นำขบวนมาพร้อมดอกไม้สีตัดกัน น้ำเงิน-ขาว-แดง ตามสีธงชาติฝรั่งเศสแต่เรียงรายร้อยไว้ด้วยกันอย่างเป็นระเบียบในรูปของเลข 9 บ่งบอกเลขท้ายปีเกิดของผู้เฉลิมฉลอง (และปีปัจจุบัน)
ขบวนเริ่มต้นด้วยเหล่าทารกที่เกิดในปีนี้ (2019) เนื่องจากยังไม่ประสีประสาและยังเดินไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ ทารกเหล่านี้จึงมีผู้ช่วยส่วนตัว ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพ่อแม่ของพวกเขาเองนั่นแหละค่ะ พาขึ้นรถเข็นและนำแห่ไปรอบใจกลางเมือง แต่ดูท่าแล้วคนที่สนุกกับงานนี้น่าจะเป็นพ่อแม่ของเด็กเสียมากกว่า เพราะเหล่าเบบี๋ส่วนใหญ่นั้นเอาแต่หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องอยู่ในพาหนะส่วนตัวของตัวเอง สบายขนาดที่ว่าดนตรีเสียงดังก็ยังปลุกเหล่าหนูน้อยให้ตื่นไม่ได้เลยล่ะค่ะ
เหล่าเบบี๋กำลังหลับสบายในรถเข็นที่แห่ไปรอบเมือง
ถัดจากเบบี๋อายุ 0 ขวบก็เป็นเด็กๆ ที่เกิดในปี 2009 เด็กๆ ในวัยกำลังซนมาในชุดสีเขียวสดที่ทำให้พวกเขาดูเหมือนเทวดา/นางฟ้าตัวน้อยๆ ในนิทาน กำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับโปรยเศษกระดาษหลากสีอันเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองไปทั่วท้องถนน
กลุ่มเด็ก 10 ขวบในธีมนางฟ้าและเทวดาตัวน้อย
มาถึงตรงนี้หลายๆ คนคงเดาว่าขบวนถัดมาคือขบวนของหนุ่มสาววัยรุ่นอายุ 20 แต่ผิดค่ะ! เราก็ไม่ค่อยเข้าใจการจัดลำดับขบวนของพวกเขาสักเท่าไหร่ แต่เดาเอาว่าพวกที่อยู่ขบวนต้นๆ คือพวกที่ต้องรีบกลับบ้านไปกินนมนอนแน่ๆ เพราะขบวนที่อยู่ถัดมาเป็นขบวนของคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายที่มีอายุครบ 90 ปี ซึ่งเดาได้เลยว่าพวกท่านต้องเกิดในปี (กดเครื่องคิดเลขอย่างไว) 1929! แต่ครั้นจะให้พวกท่านมาเดินรอบเมืองก็คงไม่ไหว ทางเมืองเลยจัดเตรียมสารถีพร้อมรถที่ดูแล้วน่าจะเกิดปีใกล้ๆ กับพวกคุณปู่คุณย่าเหล่านี้ พาพวกท่านนั่งโชว์โฉมไปรอบเมือง เสียงปรบมือแสดงความเคารพดังกึกก้องไปตามแนวถนนทุกเมตรที่รถทั้งสองคันพาพวกท่านแล่นผ่าน เห็นแล้วรู้สึกตื้นตันชวนขนลุกพิลึกค่ะ
คุณปู่คุณย่าในวัย 90 โบกมือทักทายทุกคนในเมือง
เมื่อเทียบกับคนไทย คนฝรั่งเศสในวัย 80 ปียังดูแข็งแรงอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งๆ ที่มีวัยวุฒิสามารถเป็นปู่ย่าตาทวดกันได้แล้ว แต่ผู้อาวุโสที่เข้าร่วมในขบวนถัดมาเหล่านี้ยังดูแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่วและมีสง่าน่าเกรงขาม ทุกคนมาในธีม smart casual พร้อมหมวกสานใบเก๋ดูแล้วเท่ไม่หยอกเลยค่ะ
คุณตาคุณยายวัย 80 ที่ยังเดินเหินอย่างคล่องแคล่ว
แล้วก็มาถึงขบวนของรุ่นน้องถัดมาอีก 10 ปี เหล่าสว.ที่เกิดในปี 1949 พวกเขามาในชุดสีขาวปลอด แต่ตัดกันอย่างแรงกับร่มสีรุ้งที่ถืออยู่ และตามหลังมาติดๆ ด้วยขบวนของคุณลุงคุณป้าวัย 60 ที่มาในธีม Rock ‘n’ Roll สุดเฟี้ยวในยุค 50s วงโยธวาทิตที่ตามหลังมาคั่นรายการบรรเลงดนตรีแนวเดียวกับธีมของคุณลุงคุณป้าอย่างเมามัน ชวนให้เราอยากลงไปโยกย้ายส่ายสะโพกกับพวกแกด้วยเสียให้ได้
คุณลุงคุณป้าที่มาในธีม Rock 'n' Roll อย่างเท่
วงดนตรีบรรเลงเพลงชวนแดนซ์
ถัดมาก็เป็นคิวของผู้ใหญ่วัย 50 ที่ดูท่าจะมีปัญหาทางด้านเทคนิคเพราะเล่นปล่อยให้เด็กน้อยที่ถือป้ายยืนรอขบวนของตนอยู่อย่างเดียวดาย เหลียวหลังอยู่หลายรอบลุงๆ ป้าๆ ถึงจะตามมาประกบได้ทันพร้อมกันกับธีม Top Gun ภาพยนตร์อันโด่งดังในสมัยวัยทีนของพวกคุณลุงคุณป้าแก ซึ่งต้องยอมรับเลยค่ะว่ารุ่นนี้เตรียมตัวกันมาดีมาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมพร็อพไม่มีขาดตกบกพร่อง สมกับที่ให้พวกเรายืนรออยู่นานสองนาน
เด็กถือป้ายโดนทิ้งให้ยืนรออยู่อย่างเหงาๆ
จัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบกับชุดขีปนาวุธ (ปลอม)
สำหรับคนที่เกิดในปี 1979 คาดว่าภาพยนตร์ Star Wars คงเป็นเหมือนมหากาพย์สำหรับพวกเขา เพราะคนในวัย 40 เหล่านี้ต่างยกทัพสงครามจักรวาลมาจำลองไว้บนท้องถนนเมือง Cours-la-Ville อย่างสนุกสนาน ด้วยความที่ไม่ใช่แฟนภาพยนตร์แนวนี้เราเลยไม่สามารถบอกได้จริงๆ ค่ะว่าใครเป็นใคร และเป็นการจำลองมาจากภาคไหน แฟนพันธุ์แท้ Star Wars คนไหนดูออกก็ช่วยบอกไว้ในคอมเมนต์ได้นะคะ 😉
รถแทร็คเตอร์นำขบวนกองทัพขุนพลวัย 40
ยกขบวนกันมาทั้งจักรวาล
สองสาวน้อยที่มาร่วมแจมในกลุ่มของพ่อแม่ตัวเอง
จากห้วงอวกาศ เราขอนำคุณกลับมาสู่พื้นโลกอีกครั้ง ด้วยขบวนของผู้ที่เกิดในปี 1989 แต่คราวนี้เรายิ่งงงหนักกว่าเดิมอีกค่ะว่าพวกเขามาในธีมอะไร ในขณะที่แฟนเราแอบหัวเราะคิกคักก่อนจะเดาทางออกว่าเราจะถามว่าอะไร คุณแฟนเฉลยว่านี่เป็นธีมจากภาพยนตร์ฝรั่งเศสสุดฮาเรื่อง Les Visiteurs (ภาค 2) (เลส์ วิซิตเตอร์) ถึงจะไม่เคยดูหรือแม้แต่เคยได้ยินชื่อ แต่เราก็พอจะเดาได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะดังมากในหมู่คนฝรั่งเศสแน่ๆ
รถไปรษณีย์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Les Visiteurs 2
ไม่แน่ใจว่าขบวนแห่ชุดนี้สร้างความประทับใจหรือความตะขิดตะขวงใจให้คนดูกันแน่ 😅
และแล้วก็มาถึงน้องนุชสุดท้ายขบวน หนุ่มสาวกลัดมันในวัย 20 ที่ดูจะมีจำนวนมากกว่าผู้ร่วมขบวนรุ่นอื่นๆ หลายเท่า ทั้งเต้นทั้งโห่ฮามากันในชุด Astérix การ์ตูนที่ไม่มีคนฝรั่งเศส (หรือคนเรียนภาษาฝรั่งเศส) คนไหนไม่รู้จัก โดยมากันในธีมตอน Astérix and Cleopatra ที่ไม่แน่ใจว่าเป็นเวอร์ชันการ์ตูนหรือหนังเพราะมันมีทั้งสองอย่าง
กลุ่มหนุ่มสาววัย 20
หนุ่มสาววัยย่างขึ้นเลข 2 กอดคอกันกระโดดโลดเต้นร้องรำกันไปตามถนน ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นหางขบวนของรายการแล้ว แต่ที่ไหนได้ ที่ตามมาข้างหลังคือเด็กน้อยในชุดกีฬาที่กำลังถือชูป้ายเลข ‘19’ เรากับแฟนมองหน้ากันงงๆ ทำนองว่า “มาได้ไงเนี่ย” แล้วพวกเขาก็มาจริงๆ ค่ะ หนุ่มสาวในวัย 19 และ 18 ปี ที่ดูแล้วน่าจะกลัดมันกว่ารุ่นพี่ที่เพิ่งผ่านไป น่ากลัวว่าพวกเขาคงจะอดรนทนใจรอไม่ไหวกว่าที่จะได้ฉลอง Fête des Classes ของตัวเองในอีกปีสองปีหน้า เลยมาขอร่วมแจมในปีนี้ด้วยซะเลย โดยมาในธีมของเหล่า Smurfs ตัวป่วนสีฟ้าที่ทั้งร้องและเต้นได้แรงไม่แพ้พวก Astérix รุ่นพี่เลยค่ะ
เด็กน้อยชูป้าย '19 ปี' ที่ดูจะหลุดธีมงานไปสักหน่อย
แกงค์ 18 ขวบก็มาแจมกับเขาด้วย
เมื่อขบวนแห่ทยอยเคลื่อนพลหายไปทางสุดสายถนนแล้ว บรรดาพยานผู้ร่วมเหตุการณ์ต่างก็พากันย้ายไปรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้า Hôtel de Ville เพื่อร่วมดื่มฉลองพร้อมกับรอดูฉากฟินาเล่ของขบวนแห่ที่จะวนอ้อมกลับมาทักทายพวกเราอีกรอบ เสียงดนตรีดังกึกก้องไปทั่วจตุรัสพอๆ กับเสียงโห่ร้องเฮฮา เราเห็นภาพบรรยากาศนี้แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ บรรยากาศที่คุณป้าลุกขึ้นเต้นรำกับหนุ่มๆ คุณปู่ยกแก้วกระดกชนกับหนุ่มสาวอายุคราวหลาน นอกจากเราจะได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งในแต่ละช่วงวัยของมนุษย์ที่ผันไปตามกาลเวลาแล้ว นี่ยังเป็นเทศกาลที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาร่วมฉลองร่วมสนุกด้วยกันอย่างไร้พรมแดนเรื่องอายุจริงๆ ค่ะ
ผู้คนมารอชมขบวนที่วนกลับมาบริเวณหน้า Hôtel de Ville อย่างหนาตา
Comments
Post a Comment