ฝรั่งเศสทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด ตอน ตู้ขายชีสอัตโนมัติ


English Version click here


ติ๊ง-ต่อง...

เสียงอันเป็นที่คุ้นหูของคนไทยไปทั่วทุกหย่อมหญ้ากลายเป็นเสียงที่ไม่คุ้นหูสำหรับคนไทยไกลบ้านอย่างเราอีกต่อไป ที่ฝรั่งเศสไม่มีร้านสะดวกซื้อที่เปิดทำการ 7 วันนันสต็อปแบบบ้านเรา เวลาจะซื้ออะไรก็ไม่ได้สะดวกเหมือนอยู่ไทย แต่...แต่...แต่...เมื่อครั้งที่ได้ไปเยือนเมือง Yenne (แยนน์) ประตูสู่เขตแคว้น Savoie (ซาวัว) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราก็ได้พบกับตู้ขายของอัตโนมัติที่เปิดให้บริการ 24 ชม.ซึ่งเป็นที่น่าแปลกตาแม้แต่สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศเจ้าบ้านเองก็เถอะ

หลายคนอ่านแล้วอาจจะคิดว่า “แปลกตรงไหน ตู้ขายขนม น้ำอัดลม/กาแฟ 24 ชม.ก็มีถมถืดไปในยุโรปหรือแม้แต่ในไทย” ก็มันจะไม่แปลกอะไรหรอกค่ะ ถ้าตู้ที่ว่ามันไม่ใช่ตู้ขายชีสสดๆ ชีสเป็นก้อนๆ เป็นต่อนๆ ให้เราได้มาเลือกกดเลือกซื้อกันได้ทุกวันและเวลา ไม่ต้องไปเคาะประตู คุกเข่าอ้อนวอนเจ้าของร้านให้เสียศักดิ์ศรีราชนิกูลอย่างเราๆ อีกต่อไป

สหกรณ์โคนมแห่งเมือง Yenne

ณ สหกรณ์โคนมแห่งเมือง Yenne (Société Coopérative Laitière de Yenne) ผู้คนกำลังต่อแถวรอซื้อชีสขึ้นชื่อประจำแคว้นกันอย่างหนาตา บรรดาพนักงานสาวตัวน้อยต่างหยิบชีสก้อนใหญ่กว่าหัวของตัวเองหลายเท่าขึ้นมาตัดอย่างแข็งขันแต่ระมัดระวัง เมื่อเอ่ยถึง ‘ชีส’ ในฝรั่งเศสนั้น หากใครที่เคยเรียนรู้วัฒนธรรมฝรั่งเศสมาบ้างคงพอจะรู้ว่าในประเทศแห่งนี้มีชีสเป็นพันๆ ชนิด เยอะขนาดที่ว่า หากถามคนฝรั่งเศสเอง เขายังตอบกันไม่ถูก หรือไม่รู้จักไม่คุ้นชื่อชีสบางชนิดเลยจ้า เพราะฉะนั้นจะขออนุญาตละที่จะเอ่ยถึงเรื่องชีสแบบเจาะลึก (ไว้ถ้าวันหนึ่งเราจับพลัดจับผลูได้ไปเป็นคนทำชีสหรือไปสัมภาษณ์โรงงานทำชีสเมื่อไหร่ จะมาเล่าให้ฟังแบบจริงจังแล้วกันนะคะ) ตอนนี้รู้ไว้แค่ว่าที่แคว้น Savoie นี้ มีชีสที่ขึ้นชื่อคือ Tomme de Savoie (ตอมม์ เดอ ซาวัว) Beaufort (โบฟอร์) และ Dent du Chat (ด็อง ดู ชาต์) ก็พอค่ะ

บรรยากาศอันคึกคักภายในสหกรณ์

พนักงานกำลังออกแรงหั่นชีสก้อนใหญ่

รางวัลมากมายประดับอยู่ทั่วร้านเป็นเครื่องการันตีคุณภาพชีสของที่นี่

โล่รางวัลรองอันดับหนึ่งจากการประกวดชีส Tomme de Savoie

ระหว่างรอต่อคิวอยู่ เราก็เหลือบไปเห็น ตู้อะลูมิเนียมไซส์เขื่องตั้งอยู่หน้าประตูสหกรณ์ฯ มีป้ายเขียนไว้ว่า Vos fromage 24/24 h ! (ชีส 24 ชม.) ด้วยความอยากรู้ระดับ 10 เราเลยไปด้อมๆ มองๆ วนไปวนมาอยู่หน้าตู้หลายรอบ จังหวะเดียวกันนั้นมีคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งแกเดินมาใช้บริการพอดี เราเลยขอเสนอหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ ว่าเจ้าเครื่องนี้มันทำงานยังไง โดยรีบบอกคุณลุงคุณป้าว่า “ไม่ต้องกลัวนะคะหนูมาดี” แล้วก็ขออนุญาตถ่ายรูปตอนที่เขากดซื้อชีสไว้ด้วยเลย

แถ่น แทน แท้น...! หน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง


ลูกค้ากำลังเลือกซื้อชีสจากลิสต์ที่ทางร้านแปะไว้

รายการชีสทั้งหมดพร้อมหมายเลขตู้ (แพ็คเกจ)

วิธีการใช้ตู้ขายชีสนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด หลังจากที่ตกลงปลงใจเลือก ‘แพ็คเกจชีส’ ได้แล้ว เราก็กดปุ่มหมายเลขตู้บรรจุ ‘แพ็คเกจชีส’ ที่เราต้องการ ที่ต้องใช้คำว่า ‘แพ็คเกจ’ เพราะสินค้าส่วนใหญ่ในแต่ละตู้นั้นไม่ได้มาเดี่ยว แต่มาเป็นแพ็คคู่บ้าง แพ็คคี่บ้าง เช่น เนยกับชีสขูดฝอยบ้าง ชีสนมแพะกับชีสนมวัวบ้าง ชีสที่เอาไว้ใช้ทำอาหารกับเอาไว้กินเล่นบ้าง ผสมปนเปกันไป เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ตรงใจที่สุด เมื่อกดหมายเลขแพ็คเกจชีสที่อยากได้ทั้งหมดและกด ‘ยืนยัน’ แล้ว เครื่องจะสรุปยอดเงินที่ต้องชำระ จากนั้นเราก็สอดบัตรเครดิต เดบิต วีซ่า หรือใดๆ ก็ตามที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แล้วจากนั้นก็ทำการชำระเงินเหมือนเวลาชำระค่าสินค้าหรือบริการทั่วไป รับใบเสร็จที่เครื่องพ่นออกมา จากนั้นก็เปิดฝาช่องหมายเลขที่เราเลือกไว้เพื่อหยิบสินค้าออกมาได้เลยค่ะ อ้อ! แล้วก็ควรปิดฝากลับให้เขาด้วยนะคะ เพื่อไม่ทำให้ชีสที่เหลืออยู่เสียก่อนมีใครมาซื้อไป เพราะภายในตู้นั้นเป็นระบบทำความเย็นแบบตู้เย็นค่ะ

แพ็คเกจเนยกับชีส

แพ็คเกจชีสซึ่งมี Dent du Chat อยู่ด้วย

เปิดเอาของในตู้หลังจากชำระเงินเรียบร้อย

จากที่เห็น เราเดาเอาว่าเครื่องนี้คงแปลกใหม่สำหรับคนที่นี่จริงๆ และคาดว่าคงมีหลายคนที่ใช้เจ้าเครื่องขายชีสนี้ไม่เป็น (ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่วัย 50+) คิดดูแล้วกันค่ะว่ามันน่าจะยากขนาดที่ว่าทางร้านต้องเอาปากกาเมจิกมาเขียนตัวเลขแต่ละขั้นตอนไว้ตามแต่ละจุดกันเลยทีเดียว (แอบสงสารตู้ 555) ความมหัศจรรย์ของเจ้าตู้ชีสยังไม่หมดเท่านี้นะคะ เราไปยืนดูได้จังหวะพอดีกับตอนที่สินค้าในตู้ที่ลูกค้าต้องการดันหมดพอดี (ทำยังไงดีล่ะเนี่ย) สักพักแอบเห็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์เดินออกมาดูค่ะ พร้อมกับ ‘เปิดประตูลับ’ ของเครื่อง แล้วกดปุ่มอะไรอยู่สองสามที คาดว่าคงเป็นปุ่มสั่งทำชีสแน่ๆ เลย อุ๊ย! ตื่นเต้น! ตอนนี้เจ้าหน้าที่เดินกลับเข้าไปทางด้านหลังของสหกรณ์แล้ว พวกเรายืนรอกันอย่างใจจดใจจ่อก่อนที่เจ้าหน้าที่คนเดิมจะกลับมาพร้อมกับชีสสเปคเดียวกับในแพ็คเกจที่หมดไป ยัดมันใส่ในตู้หมายเลขที่ลูกค้ากด แล้วปิดปัง! ล็อคกุญแจ.... อยากได้ต้องกดเอาเองนะจ๊ะ 5555!
เจ้าหน้าที่กำลังเติมของใส่เครื่อง

เราก็คาดหวังมากไปค่ะ เครื่องนี้มีไว้วางจำหน่ายสินค้าอย่างเดียว หรือพูดง่ายๆ มันก็คือตู้เย็นเก็บชีสดีๆ นี่เอง กลับมายังคุยกันกับเพื่อนๆ ว่าชีสที่ทำด้วยมือคนน่ะอร่อยที่สุดแล้ว แล้วก็ยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ชุมชนด้วย ยังไงเราก็ยังไม่อยากให้แรงงานคน (โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ฝีมือ) ถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรทั้งหมดหรอกนะคะ แค่เครื่องขายชีสอัตโนมัติก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคอย่างเราที่มักจะท้องหิวอยู่ตลอด 24 ชม.ได้มากโขแล้ว ว่าแล้วก็นึกได้ว่า ผ่านไป Yenne คราวหน้า ถ้าสหกรณ์ปิดหรือเจอแถวยาวๆ จะลองไปใช้บริการเจ้าตู้นี้ดูเองบ้างเหมือนกันค่ะ

บรรยากาศท้องทุ่งข้างทางขณะเดินทางไปสหกรณ์


English Version click here

Comments

Popular posts from this blog

เที่ยว Lyon ลงไปทำอะไรดี

8 ของดีเมือง Annecy มาทั้งทีควรโดน

เที่ยวตลาดคริสต์มาสส่งท้ายปีที่ Cologne